ชิ้นส่วนจักรยานไต้หวัน
เยี่ยมยอด พิชิตทั่วโลก
เนื้อเรื่อง‧เจิงหลันสู ภาพ‧จวงคุนหรู แปล‧แสงชัย กิตติภูมิวงศ
ตุลาคม 2024
ในปี ค.ศ. 2022 อุตสาหกรรมการผลิตจักรยานและชิ้นส่วนของไต้หวันมีมูลค่าเกินกว่า 2 แสนล้านเหรียญไต้หวัน เฉพาะการผลิตชิ้นส่วนจักรยานมีมูลค่า 120,000 ล้านเหรียญไต้หวัน คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไต้หวันเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกาและจีน และเป็นอันดับ 2 ของสหภาพยุโรป โรงงานชิ้นส่วนจักรยานส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่ไทจงและจางฮั่ว มีห่วงโซ่การผลิตที่ครบวงจร เทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าได้ดี โดยที่โรงงานชิ้นส่วนจักรยานในประเทศอื่นทั่วโลกไม่สามารถเทียบเทียมได้
“แทบไม่น่าเชื่อว่า สายเกียร์ซึ่งเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ทำให้โรงงานดำรงอยู่ได้ เรามีการปรับปรุงเทคโนโลยีและการออกแบบอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งโดดเด่นและดีที่สุดในโลก” โจวสูฟาง (周淑芳) เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการส่งออกจักรยานแห่งไต้หวัน ซึ่งคลุกคลีอยู่ในวงการมานานถึง 23 ปี กล่าวถึง Chia Cherne Industry Co., Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองจางฮั่ว โดยโรงงานผลิตชิ้นส่วนจักรยาน เช่น โซ่ ดุมล้อและยาง เป็นต้น ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกล้วนตั้งอยู่ในไต้หวันทั้งสิ้น
จักรยานไฮเอนด์ อันดับ 1 ของโลก
“มูลค่าการผลิตจักรยานระดับไฮเอนด์ของไต้หวันครองอันดับ 1 ของโลก” โจวสูฟางชี้ว่า คลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมจักรยานมารวมตัวอยู่ในนครไทจงและเมืองจางฮั่ว เนื่องจากมีโรงงานผลิตเครื่องมือเครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูงในภาคกลาง ผู้ผลิตจึงมีโซลูชันในการปรับปรุงคุณภาพการผลิตชิ้นส่วนให้ละเอียดแม่นยำมากขึ้นได้ โดยที่อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ จะหาได้ในไต้หวันเกือบทั้งหมด
แบรนด์ข้ามชาติหลายราย เช่น SRAM และ Fox รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกาที่ผลิตโช้คกันสะเทือน ล้วนตั้งสายการผลิตและศูนย์ R&D ในไต้หวัน เจ้าของแบรนด์ เช่น Trek, Prologo และ BMC จัดซื้อชิ้นส่วนและทำการประกอบรถทั้งคันในไต้หวันเพื่อส่งออกไปทั่วโลก
“เนื่องจากไม่มีห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนที่ประเทศอื่นใดในโลกที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้” โจวสูฟางกล่าว ในไต้หวัน นอกจากจะมีสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดีแล้ว ที่สำคัญคือมีห่วงโซ่การผลิตที่สมบูรณ์มาก โรงงานในไต้หวันตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วด้วยการผลิตชิ้นส่วนหลากหลายในปริมาณน้อย สามารถออกแบบปรับแต่งและผลิตได้อย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตยืนหยัดในการรักษาคุณภาพและปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งไต้หวันยังมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพสูง จึงเป็นฐานสนับสนุนอันแข็งแกร่งที่สุดให้แก่แบรนด์ข้ามชาติ
ความสำเร็จในการจัดตั้ง A-Team ทำให้ความสามารถในการวิจัยพัฒนายังถูกเก็บให้อยู่ในไต้หวัน ส่งผลให้ไต้หวันกลายเป็นผู้ไม่มีใครทัดเทียมได้ในทุกวันนี้
ด้วยความสำเร็จของ A-Team ทำให้ไต้หวันไร้เทียมทาน
การสร้างห่วงโซ่การผลิตที่สมบูรณ์นี้ เป็นผลจากการจัดตั้ง “A-Team” โดยภาครัฐและผู้ผลิต โจวสูฟางซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการบริหารคนสุดท้ายของ A-Team วิเคราะห์ว่า “ความสำเร็จของ A-Team อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพราะจังหวะ สถานที่ และบุคลากรประจวบเหมาะกันอย่างพอดี” A-Team ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2003 ซึ่งเป็นจังหวะดีที่สหภาพยุโรปยกเลิกการเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด ในปี ค.ศ. 2004 ไต้หวันจึงมีตลาดส่งออกที่กว้างขึ้น โดยสถานที่เหมาะสมคือห่วงโซ่การผลิตที่รวมตัวกันอยู่ในนครไทจงและเมืองจางฮั่ว บุคคลเหมาะสมคือ ผู้ผลิตจักรยานชั้นนำไต้หวัน ทั้ง Giant และ Merida ยอมร่วมทีมส่งเสริมโรงงานชิ้นส่วน 20 แห่ง และกรมอุตสาหกรรมได้ให้ความช่วยเหลือในการนำเข้า Know-how ด้านระบบการจัดการการผลิตของโตโยต้า
ปัจจุบันสมาชิกของ A-Team ล้วนเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานชั้นนำอันดับ 1 หรือ 2 ของโลก เช่น KMC (Kuei Meng) International Inc., Chia Cherne Industry Co., Ltd., Joy Industrial Co., Ltd. แม้แต่ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อย่าง Maxxis และ Kenda ก็ยินดีร่วมมือกับแนวคิดของหลิวจินเปียว (劉金標) ผู้ก่อตั้ง Giant Group ในการจัดตั้งทีมวิจัยและพัฒนาจักรยาน ปัจจุบัน พวกเขาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางรถจักรยานชั้นนำของโลก “ด้วยการปรับปรุงคุณภาพ จึงทำให้ไร้คู่แข่ง และทำให้ไต้หวันอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครในโลกสามารถเทียบเคียงได้ ในการผลิตจักรยานระดับไฮเอนด์” โจวสูฟางกล่าว
โอกาสและวิกฤตของรถจักรยานไฟฟ้า
จักรยานไฟฟ้า หรือ “e-bikes” ช่วยประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนได้ กลายเป็นเทรนด์ใหม่ในตลาดจักรยานทั่วโลก โจวสูฟางกล่าวว่า เนื่องจากราคาต่อหน่วยของรถจักรยานไฟฟ้าที่สูง มูลค่าส่งออกของรถจักรยานไฟฟ้าของไต้หวันจึงแซงหน้าจักรยานธรรมดาในปี ค.ศ. 2021 โดยมีการส่งออกเกิน 1 ล้านคันเป็นครั้งแรกด้วย
ปัจจุบัน ยุโรปเป็นฐานการผลิต e-bikes ที่สำคัญ แต่ขาดแคลนโรงงานผลิตชิ้นส่วน ต้องพึ่งพาไต้หวันและโรงงานอื่น ๆ ในเอเชีย ที่มีห่วงโซ่การผลิตครบวงจร การส่งออกชิ้นส่วนจักรยานของไต้หวันจึงเติบโตขึ้นทุกปี แต่ก็นำมาซึ่งความท้าทายใหม่ ๆ เช่นกัน โรงงานผลิตต้องปรับปรุงชิ้นส่วนให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จะต้องออกแบบเฟรมและโซ่ใหม่ เป็นต้น “สมาคมฯ และกระทรวงเศรษฐการใช้รูปแบบ PPP (Public-Privat Partnership) ช่วยให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานแก้ปัญหา โดยอาศัยความได้เปรียบทางอุตสาหกรรมสารสนเทศ (IT) ของไต้หวันและนำมาประยุกต์ใช้กับจักรยานไฟฟ้า ถือเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากมาก” โจวสูฟางกล่าวอย่างจริงจัง
โจวสูฟาง เลขาธิการสมาคมส่งออกจักรยานแห่งไต้หวันชี้ว่า ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ นิยมใช้จักรยานไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งล้วนแต่ต้องอาศัยห่วงโซ่การผลิตของไต้หวัน จึงวางตลาดรถรุ่นใหม่ ๆ ได้ต่อเนื่อง
จิ๊กซอว์ของชิ้นส่วนจักรยานระดับสุดยอดที่แฝงตัวในที่ต่างๆ
ไต้หวันมีห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนจักรยานแบบครบวงจร ตั้งแต่ผู้ผลิตแฮนด์รถ ตะเกียบหน้า โซ่โช้คอัพ เฟรม เบาะนั่ง ยาง ระบบเกียร์ รถประกอบแล้วทั้งคัน โรงงานผลิตชุดชิ้นส่วนทั้งหมดกว่า 20 รายการ ได้แฝงตัวอยู่ในที่ต่าง ๆ การค้นหาโรงงานเหล่านี้อาจเหมือนกับการจับโปเกมอน หากไปที่ไทจง จางฮั่ว และไถหนาน คุณจะค้นพบโรงงานระดับแชมเปี้ยน 10 กว่าแห่งได้อย่างรวดเร็ว
Joy Industrial Co., Ltd. ผู้เชี่ยวชาญดุมล้อ
Joy Industrial เริ่มผลิตดุมล้อตั้งแต่ยุคที่จักรยานยังไม่มีระบบเกียร์เมื่อ 52 ปีที่แล้ว ปัจจุบัน มีกำลังการผลิตดุมล้อ ปีละ 15 ล้านชุด ครองส่วนแบ่งในตลาดโลกมากถึง 10%
“ดุมล้อเป็นหัวใจสำคัญของจักรยาน มีบทบาทสำคัญในระบบส่งกำลังของจักรยาน” หลิวหมิงเสียน (林明賢) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดชี้ให้เราดู “ดุมล้อ DRS (dual ratchest system)” ของ “NOVATEC Premium” แบรนด์ระดับไฮเอนด์ที่จะวางตลาดในเร็ว ๆ นี้ว่า มีความเหมาะสมมากสำหรับจักรยานเสือภูเขาหรือรถวิบากที่ต้องลุยป่าหรือขึ้นเขา มีความแข็งแกร่ง อายุการใช้งานนานและทนทานมากขึ้น มีโครงสร้างซับซ้อนกว่าด้วยระบบเฟืองคู่ (Dual Ratchest System) ซึ่งฟันแต่ละซี่ของเฟืองจะประสานและกระจายแรงเท่ากันทั้งหมด มีความแนบสนิทมากกว่าเมื่อเทียบกับดุมลูกปืนแบบเดิม สามารถลดแรงเสียดทานได้มากกว่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถีบได้สูงขึ้น
สำหรับจักรยานเสือหมอบที่เน้นความเร็ว ดุมหน้าที่เบาที่สุดซึ่งมีน้ำหนักต่ำกว่า 80 กรัม คือสิ่งที่ Joy Industrial ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการผลิตดุมล้อมีความภูมิใจมากที่สุด วัสดุที่ใช้มีตั้งแต่เหล็ก อะลูมิเนียม ไปจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ มีทั้งดรัมเบรกไปจนถึงดิสก์เบรก และสามารถผลิตดุมที่เหมาะกับรถทุกประเภท
การเยี่ยมชมโรงงาน Joy Industrial ที่เขตต้าหย่า นครไทจง ทำให้ได้เห็นเครื่องหล่อโลหะอัตโนมัติสูง 2 ชั้นจำนวน 3 เครื่อง รวมถึงสายการผลิตและตรวจสอบทำงานโดยแขนกลอัตโนมัติ ที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการผลิตแบบอัจฉริยะ
หลินหมิงเสียนชี้ว่า สินค้าที่สำคัญของ Joy Industrial คือ วงล้อคาร์บอนไฟเบอร์ ตะเกียบหน้า แฮนด์จักรยาน เป็นต้น ปัจจุบันสินค้าของบริษัทได้เข้าสู่ตลาด Aftermarket สำหรับผู้ใช้จักรยานแบรนด์ไฮเอนด์ด้วยแล้ว ในอนาคต บริษัทหวังว่าจะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานและ e-bike ที่มีโซลูชันครบวงจรด้วย
Joy Industrial Co., Ltd. ของไต้หวัน เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานระดับไฮเอนด์
Chia Cherne Industry Co., Ltd. ขยายการผลิตสายชนิดเดียว
Chia Cherne Industry ตั้งอยู่ในเมืองจางฮั่ว เริ่มต้นจากการผลิตสายเกียร์และสายเบรก ตอบสนองความต้องการเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายได้ดี จนครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของโลก
ยกตัวอย่างจากการผลิตสายเบรกจักรยานสาธารณะ YouBike ของไต้หวัน ซึ่งต้องรับมือต่อสภาวะที่อยู่ภายใต้แสงแดดเป็นเวลานาน Chia Cherne Industry ได้ปรับสูตรพลาสติกให้ทนทานต่อแสงแดดจาก 100 ชั่วโมงเป็น 400 ชั่วโมง และเพื่อขานรับต่อข้อกำหนดการพัฒนายั่งยืน (ESG) จึงได้ทำการเปลี่ยนวัสดุท่อลวดแบบดั้งเดิมเป็นวัสดุที่รีไซเคิลได้
“คุณภาพของสายเบรกที่ดี จะรู้สึกได้เมื่อสามารถหยุดรถอย่างมั่นคงด้วยการบีบคันเบรกอย่างนุ่มนวล” เฉินฉีฉี (陳祈岐) วิศวกรวิจัยพัฒนาระบบควบคุมชี้ว่า คุณภาพที่ดีมาจากการออกแบบโครงสร้างที่ดีและมีกระบวนการผลิตที่มีเสถียรภาพ วิธีการขดตัวและเรียงเส้นลวดสายเบรกในท่อที่ดี สามารถขจัดแรงต้านจากการบีบได้ ผู้ขับขี่วัยกลางคนหรือผู้ขับขี่สตรีจะไม่รู้สึกเมื่อยมือจากการบีบเบรกในการขี่ระยะทางไกล
สำหรับดิสก์เบรกไฮดรอลิกแบบ 1 ต่อ 2 ที่ออกแบบสำหรับรถ 3 ล้อ จะเห็นจุดเด่นการออกแบบท่อน้ำมันของ Chia Cherne Industry ที่สามารถควบคุมค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวของท่อน้ำมันได้ ท่อน้ำมันมีความบางและไหลคล่อง ตอบสนองการเบรกได้ทันท่วงทียิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการในการหยุดรถได้เป็นอย่างดี
Chia Cherne Industry ได้ขยายความเชี่ยวชาญการผลิตสายเคเบิลไปสู่สายสำหรับอุปกรณ์กีฬา สายมอเตอร์เรือยอชต์ สายคันเร่งเครื่องจักรกลการเกษตร และสายถุงลมนิรภัยในพื้นที่หิมะ จากการผลิตสายชนิดเดียวขยายไปสู่การผลิตระบบเบรกทั้งหมด ขยายไปถึงกลุ่มธุรกิจเครื่องระบายความร้อน ใช้ความเชี่ยวชาญได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นี่คือโรงงานชิ้นส่วนล้ำสมัยของไต้หวัน ที่สามารถขยายสายการผลิตได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ชุดดิสก์เบรกไฮดรอลิกประกอบด้วย คาลิปเปอร์ ดิสก์ ท่อน้ำมัน ฯลฯ แสดงให้เห็นถึงฝีมือการผลิตจักรยานระดับไฮเอนด์
สายเบรกของ Chia Cherne Industry ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเมื่อบีบคันเบรก
ภาพจิ๊กซอว์ที่แสดงให้เห็นถึงแชมเปี้ยนของการผลิตชิ้นส่วนจักรยาน ที่แฝงตัวอยู่ในที่ต่าง ๆ
ไต้หวันมีห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนจักรยานแบบครบวงจร ตั้งแต่ผู้ผลิตแฮนด์รถ ตะเกียบหน้า โช้คอัพ โซ่ เฟรม เบาะนั่ง ยาง ระบบเกียร์ รถประกอบแล้วทั้งคัน โรงงานผลิตชุดชิ้นส่วนทั้งหมดกว่า 20 รายการแฝงอยู่ในที่ต่าง ๆ การค้นหาโรงงานเหล่านี้อาจเหมือนกับการจับโปเกมอน โดยหากไปที่ไทจง จางฮั่ว และไถหนาน คุณจะพบโรงงานระดับแชมเปี้ยน 10 กว่าแห่งได้อย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญโซ่ : KMC (Kuei Meng) International Inc.
บริษัทผู้ผลิตโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครองส่วนแบ่งตลาด 80% ในตลาดประกอบจักรยาน และครองอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันกว่า 30 ปี ความยาวรวมของโซ่ที่ผลิตในแต่ละปีสามารถนำมาวนรอบเส้นศูนย์สูตรของโลกได้ถึง 4 รอบ
โรงงานวงล้ออะลูมิเนียมอัลลอยสำหรับจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก : Alex Global Technology Inc.
ภายใต้กระแสการขี่จักรยานระดับไฮเอนด์ ซึ่งนิยมใช้คาร์บอนไฟเบอร์ แต่ Alex Global Technology ซึ่งผลิตล้ออะลูมิเนียมอัลลอยมาแต่เดิม ยังยึดมั่นในอะลูมิเนียมอัลลอยต่อไป ด้วยความนิยมของ e-bikes ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการล้ออะลูมิเนียมอัลลอยพุ่งสูงขึ้น การยึดมั่นในสิ่งที่ชำนาญโดยไม่ตามเทรนด์ กลับกลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ผู้เชี่ยวชาญด้านเบาะนั่ง : Velo Enterprise Co., Ltd.
ตั้งอยู่ในเขตต้าเจี่ย นครไทจง ผลิตเบาะนั่งปีละ 15 ล้านชิ้น และชุดมือจับ 20 ล้านชุด ครองส่วนแบ่งตลาดเบาะนั่งในอันดับต้น ๆ ของโลก
ดิสก์เบรกไฮดรอลิก : Tektro Technology Corp.
กระแสนิยมในการใช้ดิสก์เบรกไฮดรอลิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของจักรยานเสือภูเขา ส่งผลให้การผลิตของบริษัทฯ ติดอันดับ 1 หรือ 2 ของโลก
เฟรมระดับไฮเอนด์: A-Pro Tech Co., Ltd.
ในช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมา A-Pro Tech มุ่งเน้นการผลิตเฟรม และโช้คอัพ มีการพัฒนาเฟรมและขอบล้อที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูงแต่น้ำหนักเบา เช่น อะลูมิเนียมอัลลอยและคาร์บอนไฟเบอร์ ถือเป็นตัวเลือกแรกของผู้ผลิตรถจักรยานไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ทั่วโลก
อันดับ 1 ของโลก: Maxxis Tyre
ผลิตยางรถจักรยานมากกว่า 82 ล้านชิ้น ในปี ค.ศ. 2022 ครองอันดับ 1 ของโลก
อยู่ใน 3 อันดับแรกของโลก: Kenda Tyre
Kenda Tyre เริ่มต้นกิจการด้วยการผลิตยางรถจักรยาน และสามารถผลิตยางรถจักรยานได้ 38,836,000 เส้น ในปี ค.ศ. 2022 ติด 3 อันดับแรกของโลก