Home

เที่ยวรอบเกาะ

เวทมนตร์แห่งป่า เยียวยากายและใจ

เวทมนตร์แห่งป่า เยียวยากายและใจ

อาบป่าฮิโนกิที่อาลีซานสุดแสนฮีลใจ

เนื้อเรื่อง‧กัวเหม่ยอวี๋ ภาพ‧หลินเก๋อลี่ แปล‧อัญชัน ทรงพุทธิ์

เมษายน 2025

ใต้ร่มเงาต้นไม้ในป่าฮิโนกิภายในอุทยานแห่งชาติอาลีซาน มีผักไผ่ที่ขึ้นปกคลุมจนหนาทึบ ราวกับมีนางฟ้าตัวน้อยซ่อนตัวอยู่ในกอหญ้าสีเขียว และอาจกระโดดออกมาเต้นรำกับมนุษย์ได้ตลอดเวลา

ไต้หวันเป็นเกาะที่อุดมไปด้วยป่าไม้ พื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 ถูกปกคลุมด้วยป่าไม้และภูเขาที่มีความสูงกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลมากถึง 268 ลูก ในขณะที่เกาะแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 36,000 ตารางกิโลเมตร ความหนาแน่นของภูเขาสูงในไต้หวันถือว่าพบเห็นได้ยากในโลก นอกจากนี้ระบบนิเวศของสัตว์และพืชบนภูเขาสูงและในป่าก็มีความอุดมสมบูรณ์มาก ในครานี้ เราจะไม่ใช้วิธีเที่ยวชมแบบผิวเผิน แต่จะติดตามผู้นำทางและนักพนาบำบัดเข้าไปสัมผัสประสบการณ์อาบป่า ท่ามกลางแมกไม้บนภูเขาของไต้หวัน เพื่อให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาร่างกายและจิตใจ

“เลือกต้นไม้สักต้น แล้วพิงกายเข้าหามัน” “สัมผัสกับอากาศที่สูดเข้าสู่โพรงจมูก” “เก็บใบไม้ที่หล่นอยู่ข้างกายขึ้นมา วางไว้บนฝ่ามือแล้วนวดคลึงเบา ๆ จากนั้นสูดดมกลิ่นของมัน” “สดับรับฟังเสียงจากรอบกาย” ..... “สุดท้าย ค่อย ๆ หมุนตัวไปรอบ ๆ ค้นหาทิศทางที่เราต้องการจะหยุดอยู่กับที่” “ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น น้อมรับของขวัญอันมีค่าที่ธรรมชาติมอบให้”

เมื่อมาถึงเส้นทางเดินป่าต้นมะฮอกกานี ซึ่งอยู่ในสวนป่า ซินเวย (Xinwei Forest Park) ตั้งอยู่ในเขตทัศนียภาพแห่งชาติเม่าหลิน (Maolin National Scenic Area) นครเกาสง จางถิงเหว่ย (張庭瑋) ผู้ให้คำแนะนำการบำบัดด้วยป่าและวิทยากรหลักสูตรฝึกอบรมนักพนาบำบัดชาวไต้หวันคนแรก ที่ได้รับใบรับรองจากสมาคมธรรมชาติและป่าบำบัด (Association of Nature and Forest Therapy : ANFT) ของสหรัฐอเมริกา ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลนำพาเหล่าไกด์นำทางเดินป่าที่มาเข้ารับการฝึกอบรม ให้เปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อสัมผัสกับป่าเขาลำเนาไพร

 

ความเงียบสงบของทะเลสาบชุ่ยเฟิงบนภูเขาไท่ผิงซาน ทำให้แม้เพียง นั่งสมาธิและสดับรับฟังเสียงจากธรรมชาติ ก็สุดแสนจะเพลิดเพลินแล้ว

ป่าไม้ สถานที่แห่งการพักผ่อน

ศาสตราจารย์อวี๋เจียปิน (駂家斌) ประจำคณะวนศาสตร์และการอนุรักษ์ทรัพยากร (School of Forestry and Resource Conservation) มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University) และนายกสมาคมการบำบัดด้วยป่าแห่งไต้หวัน (Taiwan Forest Therapy Society) กล่าวว่า “ป่าไม้ ในภาษาอังกฤษคือ forest ความจริงก็คือเป็นการนำเอาคำว่า for มารวมเข้ากับคำว่า rest  ดังนั้นคำว่า ป่าไม้ จึงหมายถึง สถานที่สำหรับพักผ่อน” ในช่วงเกือบ 2 ศตวรรษที่ผ่านมา การพัฒนาอุตสาหกรรมก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมและแรงกดดันในชีวิต จนทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่มีสาเหตุมาจากความศิวิไลซ์ จากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์พบว่า ป่าไม้อุดมไปด้วยออกซิเจนและสารไฟทอนไซด์ (Phytoncide) ที่พืชปลดปล่อยออกมา รวมถึงไอออนลบที่เกิดจากหมอกหรือหยดน้ำเสียดสีกับอากาศ ช่วยเยียวยาร่างกายและจิตใจ โดยจะทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มสงบลง และบรรเทาอาการเหนื่อยล้าได้

การบำบัดด้วยป่ายังถือเป็นการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ทำให้ได้สัมผัสกับการใช้ชีวิตในวิถีสโลว์ไลฟ์ คุณจางถิงเหว่ย (張庭瑋) กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมการบำบัดด้วยป่า จะหลุดพ้นจากจังหวะชีวิตที่เร่งรีบ หลอมรวมเข้ากับจังหวะชีวิตที่เนิบช้า และจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ช่วยให้บรรลุเป้าหมายของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของตนเองกับผู้อื่นและความสัมพันธ์กับผืนแผ่นดิน อีกทั้งยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย

กิจกรรมการบำบัดด้วยป่ากำลังเป็นกระแสนิยมในต่างประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกาและเยอรมนี ต่างจัดให้การบำบัดด้วยป่าเป็นวิธีการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน หรือการแพทย์ทางเลือกที่ใช้เป็นส่วนเสริมสำหรับการแพทย์แผนปัจจุบัน สำหรับไต้หวันซึ่งมีลักษณะภูมิอากาศแบบเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน มีภูมิประเทศที่สูงและต่ำสลับกัน มีภูเขาสูงชันมากมายและประมาณร้อยละ 60 ของพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยป่าไม้ สัดส่วนของพื้นที่ที่เป็นป่าไม้ จัดว่าสูงเป็นอันดับที่ 7 ของทวีปเอเชีย นอกจากนี้ ไต้หวันซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 36,000 ตารางกิโลเมตร มีภูเขาที่มีความสูงเกินกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลมากถึง 268 ลูก ความหนาแน่นในระดับสูงเช่นนี้ ถือว่าพบเห็นได้ยากในโลก ภูเขาและป่าไม้ในไต้หวันเป็นแหล่งกำเนิดระบบนิเวศของสัตว์และพืชที่หลากหลาย สมควรอย่างยิ่งที่มนุษย์เราจะผ่อนจังหวะชีวิตให้ช้าลง เพื่อสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของพลังแห่งการเยียวยา

 

คุณจางถิงเหว่ย ผู้ให้คำแนะนำการบำบัดด้วยป่าและวิทยากรหลักสูตรฝึกอบรมนักพนาบำบัด นำผู้เข้ารับการฝึกอบรมไปเปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 และสัมผัสกับขุนเขาลำเนาไพร

เส้นทางเดินเท้าสุ่ยซานที่อาลีซาน เส้นทางป่าบำบัดแห่งแรกของไต้หวัน

ในยุคที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน ภูเขาอาลีซานที่อุดมไปด้วยป่า ฮิโนกิ ภูเขาไท่ผิงซานและภูเขาปาเซียนซาน ได้รับการขนานนามว่า 3 แหล่งป่าไม้สำคัญของไต้หวัน ศาสตราจารย์หวังเซิงหยาง (王擼陽) ประจำคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยจงซิง (National Chung Hsing University) กล่าวว่า ไม้ฮิโนกิ (หรือสนไซเปรส) เป็นพรรณพืชเก่าแก่ที่ตกทอดมาจากยุคน้ำแข็ง ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในสภาพภูมิอากาศที่เป็นเขตอบอุ่น ทั่วโลกมีประมาณ 6-7 สายพันธุ์ ในไต้หวันมี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ไซเปรสแดง (Chamaecyparis formosensis) และไซเปรสเหลือง (Chamaecyparis obtusa var. formosana) แม้ภูเขาอาลีซานจะตั้งอยู่ในเขตร้อน แต่มีความสูง 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกตลอดทั้งปี เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไซเปรสแดงที่พบเพียงแห่งเดียวในโลก และต้นไซเปรสแดงจะปลดปล่อยสารโมโนเทอร์พีนไฟทอนไซด์ (monoterpene phytoncides) และไอออนลบมากกว่า 1,000 อนุภาคต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ประกอบกับมีการอนุรักษ์สภาพป่าเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ การพาตัวเองเข้าไปอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ จะช่วยลดความดันโลหิต ผ่อนคลายสมอง บรรเทาความเครียดและความวิตกกังวล เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการบำบัดด้วยป่าที่ดีที่สุด

เนื่องจากเป็นแหล่งไม้ฮิโนกิที่อุดมสมบูรณ์ ในยุคญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน จึงมีการสร้างเส้นทางรถไฟสายป่าอาลีซานขึ้น ในปัจจุบัน รถไฟเล็ก ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ทะเลหมอก พระอาทิตย์เบิกฟ้าและแสงอาทิตย์ยามพลบค่ำ กลายเป็น “5 อเมซิ่ง” ของอุทยานแห่งชาติอาลีซาน นอกจากนี้ ต้นไม้ยักษ์ที่นี่ยังมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และทำให้อุทยานแห่งชาติอาลีซานมีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับความนิยมและมีความคลาสสิกมากที่สุด ในบรรดาอุทยานแห่งชาติของไต้หวันอีกด้วย

เนื่องจากมีข้อได้เปรียบในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ กรมป่าไม้ไต้หวัน จึงได้จัดทำเส้นทางเดินป่าเพื่อการบำบัดแห่งแรกของไต้หวันขึ้นในอุทยานแห่งชาติอาลีซาน โดยให้ชื่อว่า “เส้นทางเดินป่าเพื่อการบำบัดสุ่ยซาน” มีความยาว 863 เมตร ทอดยาวไปตามพื้นที่ที่ค่อนข้างราบเรียบ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของป่าฮิโนกิที่อุดมสมบูรณ์ตลอดเส้นทาง

สำนักงานสาขาของกรมป่าไม้ ประจำเมืองเจียอี้ ได้เชิญคุณหลินเจียหมิน (林家民) นักพนาบำบัดจากสมาคมการบำบัดด้วยป่าไต้หวัน และทีมออกแบบเส้นทางเดินป่าเพื่อการบำบัดสุ่ยซาน ร่วมกันวางแผนและแบ่งพื้นที่สำหรับการบำบัดขึ้นรวม 4 โซน ได้แก่ “ห้องเรียนสุ่ยซาน” “ม้านั่งกลางป่า” “แดนแห่งจินตนาการ” และ “แสงเงาแห่งป่า” โดยแต่ละโซนถูกออกแบบให้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับวิธีการบำบัดซึ่งประกอบด้วย “หลับตา” “หายใจเข้าและออก” “ยืดเหยียด” และ “เอนกายลงนอน” สามารถฟังคำบรรยายวิธีการบำบัดผ่านเทคโนโลยีไร้สายบลูทูธได้ในทุกโซน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นครั้งแรก เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Alipedia app ก็สามารถทำกิจกรรมการบำบัดตามคำชี้แนะจากแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ด้วยตนเองตลอดเวลา

 

เส้นทางเดินป่าเพื่อการบำบัดสุ่ยซานที่ภูเขาอาลีซาน เป็นเส้นทางป่าบำบัดแห่งแรกของไต้หวัน

ปล่อยวาง เปิดประสาทสัมผัส

ต้นเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งเดินทางเข้าไปสัมผัสประสบการณ์บำบัดด้วยป่าในเส้นทางเดินป่าเพื่อการบำบัดสุ่ยซาน ภายใต้การนำของคุณหวังเซินหลิน (王森林) ผู้ให้คำแนะนำการบำบัดด้วยป่า

เสียงขับขานของสกุณาหลากชนิด อย่างนกระรางสเตียร์ (Steere's Liocichla) นกภูหงอนไต้หวัน (Taiwan yuhina) นกหางรำหูขาว (White-eared Sibia) และนกไต่ไม้ยุโรป (Eurasian nuthatch) ฯลฯ ราวกับอยู่ข้าง ๆ หูนี่เอง แต่สักพักก็เหมือนกับอยู่ไกลออกไป เหล่าสกุณาต่างสลับกันขับขาน ราวกับพวกมันกำลังต่อปากต่อคำกัน ตามมาด้วยเสียงหวูดรถไฟเล็กที่ออกจากสถานีตรงตามเวลา กำลังแล่นมาตามเส้นทางรถไฟสายป่า ช่วงที่อยู่ใกล้กับโซนนี้มากที่สุด คุณหวังเซินหลินกล่าวว่า “ใจยิ่งสงบลงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถได้ยินเสียงที่แผ่วเบาได้มากขึ้นเท่านั้น”

เมื่อเดินมาถึงโซน “ม้านั่งกลางป่า” มีต้นฮิโนกิ 2 ต้นที่ด้านหน้าฝั่งตรงข้ามของชานไม้ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเหยียดแขนยืดอก สูดลมหายใจลึก ๆ เข้าทางจมูกแบบช้า ๆ จากนั้นเป่าลมหายใจออกทางปากแรง ๆ การสูดสารไฟทอนไซด์ที่ต้นฮิโนกิปลดปล่อยออกมา จะช่วยให้สมองสดชื่นขึ้น

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน เขตภูเขาอาลีซานมีฝนตกหนัก ผักไผ่ที่ขึ้นปกคลุมดินใต้ร่มเงาต้นไม้ในป่าได้น้ำฝนมาหล่อเลี้ยง ทำให้ใบมีสีเขียวอ่อนและอ่อนนุ่มมากขึ้น สะกดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมา ให้อดไม่ได้ที่จะหยุดชม มีความรู้สึกราวกับว่า มีนางฟ้าตัวจิ๋วในป่าซ่อนตัวอยู่กลางกอหญ้า กำลังแอบมองเราด้วยดวงตาเป็นประกาย หรือบางทีอาจจะกระโดดออกมาจากกอหญ้า เพื่อหยอกล้อหรือเต้นรำกับเราก็เป็นได้

เมื่อเลี้ยวไปตามทางโค้งก็ถึง “แดนแห่งจินตนาการ” ซึ่งเป็นโซนที่เงียบสงบที่สุดของเส้นทางเดินป่าสายนี้ ข้างทางมีต้นไม้รูปทรงหัวช้างที่บนลำต้นมีโพรงอยู่โพรงหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถสารภาพความในใจกับโพรงต้นไม้แห่งนี้ได้

เมื่อเดินต่อไปจะเจอกับโซน “แสงเงาแห่งป่า” ที่นี่ถูกจัดทำเป็นแท่นวงกลม นักท่องเที่ยวสามารถเอนกายลงนอนบนแท่นนี้ กางแขนทั้งสองข้าง แหงนหน้ามองฟ้า รับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา คุณหวังเซินหลินกล่าวว่า “การเอนกายลงนอนบนพื้นที่ที่มีความสูง 2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล จินตนาการว่าตนเองกำลังทะยานข้ามยอดไม้ เหาะเหินเดินอากาศอยู่เหนือเมฆหมอก บินไปยังสุดขอบฟ้า ทำให้รู้สึกได้ว่า ไม่มีอุปสรรคใดในชีวิต ที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้”

ไฟทอนไซด์และไอออนลบในป่า กระตุ้นให้คุณเกิดจินตนาการและคุณจะได้พบกับทัศนียภาพและรูปร่างของต้นไม้ที่หลากหลาย คุณหวังเซินหลินกล่าว พร้อมชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่ได้รับสมญานามว่า “หัวหน้าเผ่าฮิโนกิ” ซึ่งเป็นต้นฮิโนกิที่บนลำต้นมีตาไม้ มอสและเปลือกลำต้นที่แตกและหลุดร่วงที่ประกอบกันเข้า เกิดเป็นรูปทรงที่คล้ายกับใบหน้าของหัวหน้าชนเผ่า ที่มีขนนกประดับบนศีรษะและมีผ้าปิดดวงตาเอาไว้

ภูเขาอาลีซานที่มีความสูงกว่า 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนเขตป่าหมอก ช่วงบ่ายมักจะมีหมอกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านก้อนเมฆลงมาปะทะเข้ากับหมอกไอ ทำให้เกิดเป็น “ลำแสงแห่งพระเยซู” (Jesus light หรือ Crepuscular Rays) ที่สาดส่องไปไกลสุดลูกหูลูกตา สร้างความตื่นตาตื่นใจและความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

จุดสิ้นสุดของเส้นทางเดินป่าสายนี้ คือ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุ 1,081 ปี ที่มีชื่อว่า “ต้นไม้ยักษ์แห่งสุ่ยซาน” นักท่องเที่ยวที่ได้มาเห็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้มักรู้สึกยินดีปรีดา และสามารถนั่งพักที่แท่นชมวิวที่อยู่รอบ ๆ แล้วแหงนหน้าชมความยิ่งใหญ่อลังการของต้นไม้โบราณที่สูงเสียดฟ้าต้นนี้

 

สถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้ไผ่ที่ป่าไผ่สือปี้ เมืองหยุนหลิน เป็นสถานที่สำหรับสัมผัสประสบการณ์การบำบัดด้วยป่าไผ่

หยางจื้อข่าย (กลาง) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติผิงตง (National Pingtung University of Science and Technology) กำลังสอนผู้เข้าฝึกอบรมเพื่อเป็นผู้นำทางและนักพนาบำบัด ให้รู้จักพืชพรรณในป่า

ศูนย์ป่าบำบัดในสวนพฤกษศาสตร์อาลีซาน

กรมป่าไม้ไต้หวันวางแผนจัดตั้งศูนย์ป่าบำบัดขึ้นภายในสวนพฤกษศาสตร์อาลีซาน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟจู้ซานและลานชมวิวบนภูเขาเสี่ยวลี่หยวนซาน ภายในสวนพฤกษศาสตร์อุดมไปด้วยพืชพรรณและสัตว์หลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีทางเดินที่เป็นบันไดหิน ลานชมวิวและอาคารที่สร้างด้วยไม้หลังหนึ่ง พื้นที่ภายในชั้นที่ 1 ของอาคารไม้คือห้องบำบัดที่สามารถฝึกโยคะ ล้อมวงชงชา และใช้เป็นห้องเรียนสำหรับการบำบัดด้วยป่า ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้องอาหาร ผู้ประกอบการได้เตรียม “อาหารพื้นถิ่น” ไว้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการจิบชาจากยอดเขาอาลีซานสักจอก ดื่มกาแฟทะเลหมอกอาลีซานสักแก้ว หรือจะลองชิมหมี่ซั่วคลุกน้ำมันเมล็ดชาอาลีซานสักจาน ล้วนเป็นการใช้ประสาทรับกลิ่นและรับรสมาสัมผัสกับ “อาหารพื้นถิ่น” ทั้งสิ้น

ผู้ประกอบการร้านอาหารเล่าว่า “เมื่อวานอาลีซานมีฝนตกห่าใหญ่ นึกว่าจะไม่มีลูกค้าซะแล้ว คาดไม่ถึงว่านักท่องเที่ยวจากเนเธอร์แลนด์ เยอรมนีและนิวซีแลนด์ ไม่กลัวฝน มานั่งกันอยู่ที่นี่ตลอดบ่าย แถมยังดื่มด่ำกับบรรยากาศจนแทบไม่อยากกลับไปเลยทีเดียว”

กลิ่นอายของป่าในไต้หวันมักทำให้ผู้คนไม่อยากกลับออกไป กรมป่าไม้ได้ทำการวิจัยและพัฒนาน้ำหอมจากป่าที่ใช้น้ำมันหอมระเหยของไม้ซีดาร์ธูปไต้หวัน (Calocedrus formosana) ซึ่งเป็น 1 ใน “5 พันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นของไต้หวัน” เป็นน้ำมันฐาน จากนั้นผสมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นสมุนไพร ดอกไม้และไม้ รวม 3 กลิ่น นอกจากนี้ กรมป่าไม้ยังเปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์เชิงวัฒนธรรมจากป่าอาลีซาน ภายใต้แบรนด์  “Alishan 2488m” ขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อสินค้าสร้างสรรค์เชิงวัฒนธรรม ที่ผลิตจากไม้ล้ำค่าและกลิ่นอายของป่าในไต้หวัน ติดไม้ติดมือกลับไปได้

 

นักท่องเที่ยวเอนกายลงนอนอย่างสบายอารมณ์บนแท่นทรงกลมที่มีชื่อว่า “แสงเงาแห่งป่า” เพื่อดื่มด่ำไปกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา

เวทมนตร์แห่งป่าช่วยเยียวยากายและใจ

นอกจากที่อาลีซานแล้ว เส้นทางเดินป่าที่เงียบสงบที่สุดในไต้หวันและเป็น “เส้นทางเงียบสงบ” (หรือ Quiet Trail) แห่งแรกของโลกในเขตป่านันทนาการแห่งชาติไท่ผิงซาน (Taipingshan National Forest Recreation Area) ก็เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการบำบัดด้วยป่าเช่นกัน เส้นทางเดินเท้ารอบทะเลสาบชุ่ยเฟิงในพื้นที่ป่านันทนาการแห่งนี้ ห่างไกลจากเสียงรบกวนจากภายนอก ตลอดเส้นทางเป็นป่าฮิโนกิที่เขียวขจี บนพื้นดินถูกปกคลุมด้วยมอสหนาทึบ ราวกับปูพื้นด้วยฟองน้ำดูดซับเสียงตามธรรมชาติ ระดับเสียงต่ำที่สุดในป่าแห่งนี้ ไม่ถึง 25 เดซิเบล คุณหลินหัวชิ่ง (林華慶) อธิบดีกรมป่าไม้เล่าว่า “แค่มาทำสมาธิ หรือไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ เพียงแค่ฟังเสียงที่ธรรมชาติต้องการจะบอกอะไรกับคุณ ก็สุดแสนจะฮีลใจแล้ว”

หากเดินตามแม่น้ำเฟิงกังขึ้นไปทางต้นแม่น้ำ ไปจนถึงน้ำตก ซวงหลิวในเขตป่านันทนาการแห่งชาติซวงหลิว เมืองผิงตง น้ำตกแห่งนี้เคยได้รับการโหวตให้เป็น “น้ำตกที่สวยงามเป็นอันดับที่ 2 ของไต้หวัน” สถานที่แห่งนี้อุดมไปด้วยไอออนลบและอากาศบริสุทธิ์

ที่ป่ามะฮอกกานีใบใหญ่ (Swietenia macrophylla) และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในเขตป่านันทนาการแห่งชาติจือเปิ่นในเมืองไถตง มีปริมาณไอออนลบประมาณ 2-8 เท่าของเขตตัวเมือง ธารน้ำที่ใสสะอาด อาหารพื้นเมืองและน้ำพุร้อน เมื่อผนวกรวมกัน สามารถช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังช่วยให้ข้อกระดูกได้ยืดเหยียดและเคลื่อนไหวอีกด้วย

หากรู้สึกราวกับว่า มีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในป่า? คำตอบคือ “เสียงเต้นของหัวใจตัวเอง”

นั่งเฉยอยู่ทำไม ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวดีกว่า ออกมาจากคอมฟอร์ตโซนของคุณ แล้วเดินเข้าไปในป่า สูดดมกลิ่นของดอกไม้ใบหญ้า เฝ้าชมการเปลี่ยนแปลงแสงและเงา ฟังเสียงพึมพำของต้นไม้ รับรู้ความรู้สึกของสายลมที่จุมพิตลงมาบนใบหน้า ปล่อยให้ร่างกายและจิตวิญญาณของคุณ เพลิดเพลินไปกับมนตร์เสน่ห์แห่งขุนเขาลำเนาไพรของไต้หวันกันเถอะ!

บทความเพิ่มเติม

บทความยอดนิยม