ลมและคลื่น เสน่ห์ที่ชวนหลงใหล
ท่องไต้หวันผ่านคลื่นลมทะเล
เนื้อเรื่อง‧เจิงหลันสู ภาพ‧หลินหมินเซวียน แปล‧รุ่งรัตน์ แซ่หยาง
มิถุนายน 2024
Nick ขณะเล่นวินด์เซิร์ฟที่ตูหลันของไถตง
ผู้คนสามารถมาเล่นเซิร์ฟโต้คลื่นที่ไต้หวันได้ตลอดทั้งปี เพลิดเพลินไปกับความอบอุ่นของท้องทะเล อิ่มอร่อยกับอาหารที่หลากหลาย สัมผัสความเป็นมิตรของคนไต้หวัน ที่ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยว
การไปเยี่ยมชม “ตูหลัน” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของแนวเทือกเขาทางชายฝั่งตะวันออกของไต้หวัน จะได้เห็นความเขียวขจีของภูเขาตูหลันและมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่มีทั้งลมและคลื่นทะเล Nicolas Postec (หรือ Nick) ชาวฝรั่งเศสเดินทางมาท่องเที่ยวไต้หวันแบบพำนักระยะยาว หรือ long stay เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่สอง และเขาก็เพลิดเพลินกับการเล่นเซิร์ฟหรือวินด์เซิร์ฟที่อ่าวตูหลันได้ทุกวันอย่างไม่เคยรู้สึกเบื่อ
ภาพจากเทศบาลเมืองไถตง
โต้คลื่น แช่น้ำแร่ กินหม้อไฟ
“การจะหาสถานที่ที่มีทั้งลมแรงและคลื่นลูกใหญ่ที่เหมาะกับการโต้คลื่นในโลกนี้ นับว่าหาได้ยากมาก” Nick เล่าให้ฟังว่า โดยปกติเขามักจะไปเล่นโต้คลื่นที่เมือง Biarritz และ Hossegor ในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นจุดสำหรับโต้คลื่นที่ดีที่สุดในโลก แต่ในช่วงฤดูหนาวจะมีสภาพอากาศที่หนาวจัด ขณะที่ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป ไต้หวันกลับมีคลื่นทะเลที่สามารถเล่นโต้คลื่นได้ทุกวัน นับว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก
ในปี ค.ศ. 2022 Nick ค้นหาจุดที่เหมาะสมกับการโต้คลื่นผ่านทางอินเทอร์เน็ต และเขาถูกดึงดูดด้วยคลิปวิดีโอของร้านโต้คลื่นแห่งหนึ่งในตูหลันของเมืองไถตง หลังจากทำการบ้านเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงตัดสินใจเดินทางมาไต้หวันเพื่อเล่นโต้คลื่น
Nick นำกระดานวินด์เซิร์ฟจำนวนสองกระดานและกระดานโต้คลื่นหนึ่งกระดานมาจากฝรั่งเศส เขาประทับใจกับลมและคลื่นของไถตงเป็นอย่างมากถึงกับกล่าวยกย่องว่า “ตูหลันเป็นหาดที่มีคลื่นเสถียร เป็นคลื่นที่มีพลังแต่ไม่อันตราย ทำให้เขาสามารถพัฒนาเทคนิคได้ง่าย”
สิ่งแรกที่เขามักทำหลังจากตื่นนอนในแต่ละวันคือ การไปดื่มกาแฟสักแก้วที่ 7-11 หลังจากนั้นจะไปเฝ้าสังเกตลักษณะคลื่นในวันนั้น “ถ้ามีคลื่นลูกใหญ่ก็จะเล่นโต้คลื่น แต่ถ้ามีลมแรงก็จะเล่นวินด์เซิร์ฟ” เขายิ้มพร้อมกับกล่าวขึ้นว่า “เพราะการเล่นวินด์เซิร์ฟคือ “ลูกพี่ลูกน้อง” ของการโต้คลื่นนั่นแหละ”
Nick เล่าให้ฟังอีกว่า ในไต้หวันสามารถเล่นโต้คลื่นได้แทบทุกวัน เนื่องจากการเล่นเซิร์ฟเป็นกีฬาเอกซ์ตรีมที่ต้องใช้พลังและทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า “การทานหม้อไฟ และไปแช่น้ำแร่ที่จือเปิ่น จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูร่างกายให้มีกำลังกลับคืนมา โดยเฉพาะเมนูหม้อไฟตุ๋นยาจีน ซึ่งดีต่อสุขภาพอย่างมาก” Nick พูดและหัวเราะด้วยสีหน้าบ่งบอกความพึงพอใจ
“หากไม่ใช่เพราะต้องกลับไปทำงาน ผมก็อยากอยู่ที่ไต้หวันไปตลอด” Nick กล่าว การโต้คลื่นเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งและสร้างความสดชื่นให้กับร่างกาย ทำให้คนเล่นเกิดความพึงพอใจและสนุกไปกับชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาได้พบกับเพื่อน ๆ ในไต้หวันที่ชื่นชอบการเล่นโต้คลื่นเหมือนกันจำนวนมาก พร้อมย้ำว่า “ในอนาคตเขาจะต้องมาไต้หวันในช่วงฤดูโต้คลื่นทุกปี”
Nick มาพำนักอยู่ที่ไต้หวันแบบระยะยาวและเล่นเซิร์ฟที่นี่ทุกวัน เขามองว่า ไม่ว่าจะเป็นคลื่นขนาดใหญ่หรือเล็ก ไม่เพียงแต่ช่วยให้เกิดการพัฒนาทักษะ แต่ยังทำให้ตัวเองดีขึ้นในขณะที่เล่นคลื่นอีกด้วย
ผู้คน คือความทรงจำที่ดีที่สุดระหว่างการเดินทาง
เพื่อนสนิทที่ Nick พูดถึงคือ Mark Jackson กับเฉินหย่งอี้ (陳詠憶) สองสามี-ภรรยา เจ้าของโฮมสเตย์และเปิดโรงเรียนสอนโต้คลื่นชื่อว่า “WaGaLiGong Dulan Surf & SUP House and Bar”
เมื่อ 20 ปีที่แล้ว Mark เดินทางมาจากแอฟริกาใต้เพื่อมาสอนภาษาอังกฤษในเมืองไถตง จากที่คิดว่าจะพำนักอยู่แบบระยะยาว กลายเป็นตั้งรกรากอยู่ในไต้หวัน ปัจจุบันเขาสามารถพูดได้ 3 ภาษาอย่างคล่องแคล่วทั้งภาษาจีน ภาษาไต้หวัน และภาษาอังกฤษ Mark เผยว่า “ในช่วง 5 ปีแรกที่เขาอยู่ที่ไต้หวัน ได้พบกับเพื่อนสนิทหรือเรียกว่าเป็น “คู่หู” 3 คน” ซึ่งทั้งสามคนนี้เปรียบเสมือนครูผู้สอนวิชาชีวิตให้กับเขา คนแรกคือจางเจี๋ยซือ (張傑獅) เป็นทหารอากาศและเป็นผู้ที่สอนให้เขารู้จักการดำน้ำจับปลาด้วยฉมวก โดยมักจะชวนเขาไปร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่บ้านทุกปี คนถัดมาคือ เจิงอิ้งห้าว (曾映皓) ทำงานในศาล เป็นคนที่สอนให้เขาเล่นวินด์เซิร์ฟ คนสุดท้ายคือ ข่งเจียห้าว (孔家豪) เป็นชนพื้นเมืองที่สอนให้เขาเล่นร่มร่อน หรือ พาราไกลดิ้ง” “ผมกับพวกเขาทั้งสามคนเป็นเสมือนพี่น้องกัน และมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับครอบครัวของพวกเขาด้วย ทำให้ผมสามารถปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ดี ทำให้ผมหลงรักไต้หวัน และพร้อมที่จะลงหลักปักฐานอยู่ที่ผืนดินแห่งนี้”
ด้วยเหตุนี้ “คน” จึงมีความสำคัญที่สุด เขามักจะจัดงานบาร์บีคิวปาร์ตี้อยู่บ่อย ๆ การมีปฏิสัมพันธ์กับทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่า ก็เพื่อหวังให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนตูหลันทุกคน เกิดความรู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
ร้านโต้คลื่น WaGaLiGong จัดงานเทศกาล “Taitung Wave Classic” เป็นประจำทุกปี เพื่อดึงดูดนักเล่นเซิร์ฟจากทั่วโลกให้มารวมตัวกันที่ไต้หวัน (ภาพจาก Taitung Wave Classic)
การโต้คลื่นคือภาษาสากล
นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 เป็นต้นมา ร้านโต้คลื่น “WaGaLiGong” จัดเทศกาลเล็ก ๆ โดยใช้ชื่อว่า “Taitung Windsurf Wave Classic” ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นอีเวนต์ที่ดึงดูดนักโต้คลื่นจากทุกสารทิศทั่วโลกให้มาที่ไต้หวัน Mark กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับเขามากที่สุดคือ บรรดานักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ ทั้งลิทัวเนีย รัสเซีย สหรัฐอเมริกา อิตาลี และมองโกเลียที่เคยมาเยือนไต้หวันแล้ว มักจะกลับมาที่นี่อีกหลังผ่านไปสองสามปี และทุกคนก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน
อย่างเช่น Taiga Matsumoto ชาวญี่ปุ่น ซึ่งชอบและหลงใหลในการเล่นโต้คลื่นและเล่นวินด์เซิร์ฟเป็นอย่างมาก เขาเดินทางกลับมาพำนักที่ไต้หวันแบบระยะยาวประมาณ 1 เดือนทุกปี ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เขาเคยมาไต้หวันเมื่อปี ค.ศ. 2016
เมื่อมาถึงตูหลัน จะได้สัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมืองไถตงที่ทรงคุณค่า
Mark Jackson และเฉินหย่งอี้ (陳詠憶) สองสามีภรรยาหวังว่า นักท่องเที่ยวที่มายังตูหลัน จะเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางทะเลทุกประเภทได้อย่างปลอดภัย รวมถึงกระดานโต้คลื่นและการเล่นแพดเดิลบอร์ดแบบยืน
ไถตง จุดโต้คลื่นยอดนิยมระดับโลก
ท่าเรือจินจุน เมืองไถตง อยู่ห่างจากตูหลันไปทางเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นแหล่งเล่นเซิร์ฟที่เป็นจุดรวมตัวของนักโต้คลื่นฝีมือดี เทศบาลเมืองไถตงจัดการแข่งขันกระดานโต้คลื่นนานาชาติ “Taiwan Open of Surfing” มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 และได้ร่วมกับ Asian Surfing Championship (ASC) และ World Surf League (WSL) ในการยกระดับให้การแข่งขันกระดานโต้คลื่นของไต้หวันขึ้นเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันนานาชาติ ส่งผลให้ไถตงกลายเป็นสถานที่เล่นเซิร์ฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก
หงเจี๋ยหย่า (洪婕雅) หัวหน้าฝ่ายการท่องเที่ยวและนันทนาการประจำเทศบาลเมืองไถตง ชี้ให้เห็นว่าชายฝั่งไถตงมีลักษณะของคลื่นหลายขนาด ที่เหมาะสำหรับนักโต้คลื่นทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับมือโปร โดยนอกจากอากาศที่อบอุ่นในช่วงฤดูหนาว ที่เป็นจุดดึงดูดนักโต้คลื่นจากยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว นักโต้คลื่นมืออาชีพต่างมองว่าไถตงมีระลอกคลื่นที่ “งดงาม” คลื่นแต่ละลูกจะซัดเข้ามาเป็นชั้น ๆ อย่างสวยและม้วนตัวอย่างสมบูรณ์ คลื่นที่ไม่สมบูรณ์หรือแตกเป็นฟองค่อนข้างน้อย เหมาะสำหรับการฝึกเล่นโต้คลื่นในท่าต่าง ๆ
หงเจี๋ยหย่าแนะนำว่า หลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงในน้ำทะเลเย็น ๆ นักโต้คลื่นที่มาเยือนไถตงเป็นเวลานานๆ แบบ long stay ต้องไม่ลืมที่จะไปแช่น้ำแร่ร้อน ๆ ที่จือเปิ่นหรือจินหลุนให้สบายตัว และต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของชนพื้นเมืองในไถตง เช่น อาบาอิ (ขนมจ้าง) เครื่องดื่มสมุนไพรดับร้อนในและเกี้ยมอี๋
การให้ความรู้ด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของคอร์สการเรียนโต้คลื่นสามชั่วโมง (ภาพจาก WaGaLiGong )
เมืองไถตงจัดการแข่งขัน Taiwan Open of Surfing ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ดึงดูดนักเล่นเซิร์ฟจากทั่วโลก (ภาพจาก เทศบาลเมืองไถตง)
ชีวิตก็คือการโต้คลื่น
นอกจากไถตงแล้ว ท่าเรืออูสือในอี๋หลาน เจียเล่อสุ่ยที่ผิงตง และฟงปินในฮัวเหลียน ก็เป็นแหล่งเล่นเซิร์ฟที่มีคลื่นแตกต่างออกไป
Tropical Blends Sports LLC ตั้งอยู่ในเมืองฮัวเหลียน เป็นบริษัทที่รู้จักกันดีในวงการโต้คลื่น ก่อตั้งโดย Jim Hayes นักโต้คลื่นผู้มากประสบการณ์จากฮาวาย เขาเริ่มเล่นโต้คลื่นเมื่ออายุได้ 12 ปี เคยเข้าร่วมการแข่งขัน Moloka’i 2 O’ahu Paddleboard World Championships (M2O) ซึ่งเป็นรายการแข่งขันอันโด่งดังของฮาวาย โดยผู้เข้าแข่งขันต้องพายเรือฝ่าคลื่นลมแรงนานกว่า 7 ชั่วโมง และเขายังเคยขับเรือใบจากฮาวายไปแคลิฟอร์เนียด้วย ในปี ค.ศ. 1978 เขาร่วมตระเวนไปยังแหล่งเล่นวินด์เซิร์ฟระดับโลกกับองค์กรโต้คลื่นชั้นนำระดับโลก WSL ถึงสามครั้ง โดยเขารับหน้าที่เป็นตากล้องถ่ายทำวิดีโอ
เขาเริ่มธุรกิจร้านขายกระดานโต้คลื่นที่ฮาวายในปี ค.ศ. 1978 และจำหน่ายพายซับบอร์ด (กระดานยืนพาย) ไปทั่วโลก แต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว Jim ตัดสินใจเกษียณก่อนอายุและย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ไต้หวัน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโต้คลื่นแต่อย่างใด
เหตุผลที่แท้จริงมาจากพี่ชายของ Jim ซึ่งสอนภาษาอังกฤษที่ National Taiwan Ocean University (NTOU) ที่เมืองจีหลง หลังเกษียณพี่ชายของ Jim ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองฮัวเหลียน และชวนให้เขามาเที่ยวไต้หวันหลายต่อหลายครั้ง
Jim ซึ่งแทบไม่มีวันหยุดเลยตลอดทั้งปีพบว่า ฮาวายเริ่มมีผู้คนหนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับค่าครองชีพที่สูงลิบลิ่ว “ที่นี่กำลังกลายเป็นลอสแองเจลิสน้อย และไม่ใช่โฮโนลูลูบ้านเกิดของผมอีกแล้ว” เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
Jim มองว่าที่ฮาวายมีคนเอเชียจำนวนมาก และเขามีพี่ชายอาศัยอยู่ในไต้หวัน ซึ่งบรรยากาศแบบเอเชียในไต้หวันทำให้เขารู้สึกเป็นกันเองมาก ความปลอดภัยก็ดีมาก ทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ไต้หวันในปี ค.ศ. 2018
แนวชายฝั่งหินของไถตงและลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดคลื่นที่สะอาดและทรงพลังซึ่งเหมาะสำหรับการโต้คลื่น (ภาพจาก WaGaLiGong ถ่ายโดยเหอเจิ้นหง)
Jim ได้ส่งกระดานโต้คลื่นรุ่น limited edition จำนวนมากจากฮาวายไปยังไต้หวันโดยตู้คอนเทนเนอร์ เขาบอกว่ากระดานโต้คลื่นก็เหมือนกับแฟนสาวของนักโต้คลื่น ที่บางครั้งยังมีความใกล้ชิดกันมากกว่าแฟนสาวเสียด้วยซ้ำ
ขอเพียงให้ได้อยู่ในทะเล
ในฐานะนักโต้คลื่นอาวุโส Jim มองว่านอกจากช่วงก่อนและหลังที่มีพายุไต้ฝุ่น คลื่นในไต้หวันอาจจะเทียบไม่ได้กับคลื่นที่ชายหาดซันเซตที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่เรียกว่า Pipeline ในโออาฮู ฮาวาย
เมื่อคลื่นมีขนาดเล็กแล้วเหตุใดจึงย้ายมาอยู่ที่ไต้หวัน Jim อธิบายว่า “ผมเล่นโต้คลื่นอยู่ในศูนย์กลางของการโต้คลื่นระดับโลก (หมายถึงฮาวาย) มานานกว่า 40 ปี และไม่ได้อยากที่จะเล่นโต้คลื่นที่มีขนาดใหญ่ แต่ต้องการแช่อยู่ในน้ำทะเลเท่านั้น ตอนนี้ผมอายุกว่า 70 ปีแล้ว และไหล่ของผมก็ไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิม แต่ยังสามารถยืนอยู่บนแพดเดิลบอร์ด หรือบอร์ดยืนพาย (SUP) ได้” เขายังย้ำว่า ชายหาดสวย ๆ ในไต้หวันหลายแห่งคล้ายกับที่ฮาวาย แม้ว่าคลื่นจะไม่ใหญ่ แต่กลับเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเล่นบอร์ดแบบยืน
“ไต้หวันมีสามสิ่งที่สถานที่เล่นเซิร์ฟระดับนานาชาติต้องมี คือ น้ำทะเลอุ่น ผู้คนที่เป็นมิตร อาหารที่อร่อย” Jim ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบครีบกระดานโต้คลื่นมองในแง่ดีว่า ไต้หวันเป็นตลาดเกิดใหม่สำหรับการโต้คลื่น ผมหวังว่าจะสามารถใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมากว่า 50 ปี ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิค ความรู้ หรืออุปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือบรรดานักโต้คลื่นในฮัวเหลียนและที่อื่น ๆ
เขาหวังที่จะโปรโมทการเล่นบอดี้บอร์ดในไต้หวัน เนื่องจากที่นี่มีอุปกรณ์ที่ราคาถูก ปลอดภัย และเหมาะกับการเรียนโต้คลื่น ซึ่งร้านของเขามีห้องพักอยู่ที่ชั้นบน และสามารถรองรับนักเล่นเซิร์ฟจากทั่วทุกมุมโลก
ที่นี่มันช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ
ระหว่างการสัมภาษณ์ Jan Luo จากเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ก็เดินเข้ามาที่ร้านของ Jim หาซื้อครีมกันแดดและขอความรู้เกี่ยวกับการโต้คลื่น เพราะอากาศในไต้หวันแดดแรงและค่อนข้างร้อน
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ Jan มาเที่ยวไต้หวันและพักอยู่ที่นี่แบบ long stay นานกว่า 4-5 สัปดาห์ เขาบอกว่า “ที่นี่ยอดเยี่ยมมาก ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทำให้ที่เบอร์ลินมักจะมีฝนตกบ่อย ฤดูหนาวก็หนาวมาก ฤดูหนาวในไต้หวันถือว่าอบอุ่นกว่ามากสำหรับเขา” Jan เคยเดินทางไปยังสถานที่หลายแห่งในไต้หวัน แต่สถานที่ที่เขาชอบมากที่สุดคือฮัวเหลียน เขากล่าวว่า นอกจากการเล่นโต้คลื่นแล้ว ไต้หวันมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเยี่ยมสำหรับการขี่จักรยาน เขายังซื้อจักรยานที่ไต้หวันด้วย
สวีเจินเว่ย (徐臻蔚) ผู้ว่าเมืองฮัวเหลียนแนะนำว่า “ฮัวเหลียนเป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งของโลก ที่สามารถเดินทางไปยังภูเขาสูงและทะเล โดยใช้เวลาเพียงสิบนาที” ทั้งชายหาดจีฉีในตำบลฟงปิน สวนสาธารณะเป่ยปินในเมืองฮัวเหลียน และชายหาดด้านนอกท่าเรือฮัวเหลียน ต่างเป็นสวรรค์แห่งการเล่นเซิร์ฟที่รายล้อมไปด้วยภูเขา ซึ่งนอกจากการโต้คลื่นแล้ว ฮัวเหลียนยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติภูเขาและชายฝั่งกว่า 20 เส้นทาง มีอาหารท้องถิ่นรสเลิศมากมาย อาทิ ข้าวออร์แกนิก ชาดำน้ำผึ้ง และอาหาร slow food ของชนพื้นเมือง
คุณได้รับแรงบันดาลใจจากบทความนี้แล้วหรือยัง? และหากคุณกำลังวางแผนที่จะเล่นเซิร์ฟช่วงวันหยุดยาว ทำไมไม่ลองไปที่ไต้หวันเพื่อสัมผัสและเพลิดเพลินไปกับคลื่นอันอบอุ่น และจังหวะของมหาสมุทรกันสักครั้งล่ะ
นักเล่นเซิร์ฟที่มาเล่นโต้คลื่นที่ชายหาดจีฉี ตำบลฟงปินในฮัวเหลียน จะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ภูเขาและทะเลที่ตระการตา
(ภาพจาก เทศบาลเมืองฮัวเหลียน ถ่ายโดย หลัวหมิ่นฟ่ง)